September 2011 - Chonburi Travel Guide ท่องเที่ยว ชลบุรี: September 2011

Monday, September 26, 2011

วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม (ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ) : Ang Sila Chinese Temple, Thailand



วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม (ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ)

Wihan Thep Sathit Phra Kitti Chaloem or Nacha Sa Thai Chue Shrine

(Ang Sila Chinese Temple, Thailand)


นับเป็นสถานที่ที่สวยงามแห่งใหม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งหลายไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชมเมื่อเดินทางไปจังหวัดชลบุรี "วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม (ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ)" เป็นศาลเจ้าที่ยิ่งใหญ่อลังการแห่งหนึ่งของชลบุรี สวยงามและใหญ่มาก เป็นที่รู้จักของศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ


ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ หรือ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม ตั้งอยู่ริมเส้นทางเลียบชายทะเลจากอ่างศิลาไปเขาสามมุข บนถนนบางแสน-อ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เดิมเป็นเพียงศาลเจ้าเล็กๆ มีพื้นที่เพียง 200 ตารางวา สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2534 โดยท่านอาจารย์สมชาย พุทธนพ เป็นคนริเริ่ม พ่อมาได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เป็นลำดับ จนสร้าง "วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม" ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์สมเด็จพระมารดาองค์เทพเจ้าแห่งดวงดาว และองค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ด้วยความสวยงามของวิหาร และความศักสิทธิ์ของบเทพเจ้าทั้งหลาย เลยทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำของคนที่ไปเที่ยวแถบบางแสน-อ่างศิลาแห่งนี้

วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม (ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ) เป็นศาลเจ้าจีนที่ก่อสร้างอย่างสวยงามใหญ่โต ภายในโอ่โถงตระการตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีน จุดเด่นด้านศิลปวัตถุที่สำคัญ ได้แก่ รูปปั้นมังกรซึ่งมีมาถึง 2,840 ตัว กระถางธูปศักดิ์สิทธิ์ เสาฟ้าดิน นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีองค์ไท้ส่วยเอี้ย (ดาวเทพคุ้มครองดวงชะตาประจำปีเกิดของมวลมนุษย์) ครบ 60 องค์ ให้ผู้มาเยือนได้ขอพรได้ตรงตามปีเกิด




สิ่งที่เป็นจุดเด่น และเป็นที่น่าสนใจมากของที่นี่คือ "วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม 4 ชั้น"

ชั้นที่ 1 : เป็นที่ประดิษฐานของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ซึ่งทรงปณิธานคล้ายคลึงกับพระแม่กวนอิม แต่ผิดไปจากพระแม่กวนอิม คือ พระองค์จะต้องโปรดเวยไนยสัตว์ที่อยู่ในนรกให้หมด ฉะนั้นในงานศพจึงบูชาท่านก็เลยกลายเป็นพิธีไป ส่วนพิธีมงคลนิยมบูชาพระแม่กวนอิม กระทั่งเกิดคำว่า “ ตี๋จั๋งโปรดคนตาย พระแม่กวนอิมโปรดคนเป็น” และยังมีองค์ดวงดวงเทพพระเคราะห์ (องค์ไท้ส่วย) ทั้งหมด 60 องค์ พระศรีอริยเมตไตรยโพธิสัตว์ และยังเป็นที่ทำการของมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์อีกด้วย


ชั้นที่ 2 : เป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ทั้ง 3 ปาง ที่จำลองมาจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เป็นศาลเจ้าแรกขององค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ซึ่งท่านแม่ขององค์เทพเจ้าหน่าจาเป็นผู้สร้างให้และยังมีรูปเหมือนองค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อปางประสูติ ปางปราบมารนั่งบัลลังที่หล่อขึ้น ณ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม ประดิษฐานชั้นนี้ด้วย และรูปแกะสลัก มหาโพธิสัตว์กวนอิมหยกขาว หรือ (พระอวโลกิเตศวร) จากประเทศพม่า พระแม่กวนอิมมีสมญานามว่า มหาเมตตา กรุณา เพราะว่าพระองค์มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์โลกเป็นจำนวนมาก พระองค์ท่านสามารถประทานพรให้ผู้ที่มากราบไหว้ขอพรให้พ้นภัยต่างๆ ได้ และยังมีองค์เต๋า เล่าหง่วงกุง (พระมารดาแห่งดวงดาว) องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว องค์หนึ่งออเนี่ยเนี้ย องค์เทียงโหงวเซี้ยบ้อ องค์อุ่ยท้อผ่อสัก และองค์เทพเจ้ากวนอู ประดิษฐานอยู่ด้วย


ชั้นที่ 3 : เป็นที่ประดิษฐานขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ที่เรารู้จักกันดีว่าท่านเป็นผู้เป็นใหญ่แห่งสรวงสวรรค์ ข้าราชการนิยมมากราบไหว้เพื่อมาขอพรท่านให้ได้เลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงาน และยังพระแม่ธรณี องค์ฮั่วท้อเซียนซือ องค์ไท้อิกกิวโค่วกิ่วหลั่งเทียงจุง องค์ไท้เสียงเหล่ากุง องค์ไท้แป๊ะกิมแซ ซึ่งเป็นองค์เทพเจ้าที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมากมาย และยังมีมหาโพธิสัตว์กวนอิม หรือ (พระอวโลกิเตศวร) อีกหลายปาง ซึ่งประดิษฐานอยู่ทางด้านอาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ 72 พรรษา


ชั้นที่ 4 : เป็นชั้นที่สูงสุดเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นองค์ประธานหรือองค์พระศรีศากยมุนีพระพุทธเจ้า องค์พุทธเจ้าอีก 5 พระองค์ องค์สมเด็จพระอนุตรธรรมมารดา องค์ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดแก่จักรวาลทั้งปวง เป็นผู้ให้กำเนิดสรรพชีวิตทั้งหลายในโลกนี้ บุคคลท่านใดไม่มีบุตรนิยมมากราบไหว้ขอพรท่านให้ได้บุตรก็จะสมหวังดังที่ขอไว้ บุตรมีสติปัญญาที่ดี มีสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย พระศรีศากยมุนีพระพุทธเจ้า พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ พระมันชุศรีโพธิสัตว์ สมเด็จพุทธมารดาแดนสระทิพย์ และองค์กวงกึงเล่าโจ้ สมเด็จพระพุทธมารดาแห่งดวงดาว รวมถึงเป็นที่ประดิษฐานซำป้อ หรือ ซาเสี่ยฮุก (องค์พระอมิตาพระพุทธเจ้า องค์พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม และพระสถาปราบโพธิสัตว์) ซึ่งเป็นองค์เทพเจ้าที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือกันเป็นจำนวนมาก

กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว
  • สักการะบูชาองค์เทพเจ้าหน่าจาซาไทจื้อ (องค์พระจตุรพิธพรชัยเทพ) ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ และปวงเทพเจ้าทั้งหลาย อาทิ พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม พระศรีอริยเมตตรัย องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ฯลฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล

  • ที่ศาลเจ้ามีบริการชุดไหว้สักการะบูชาเทพเจ้าต่างๆ โดยเริ่มจากไหว้ฟ้า-ดิน ที่ศาลาฟ้าดิน (ธูป 5 ดอก) จากนั้นไหว้องค์พระแม่ธรณี (ธูป 3 ดอก) และไหว้องค์เทพเจ้าหน่าจาไท้จื้อ ตรงกลางสระบัวหน้าวิหาร (ธูป 3 ดอก)

  • และชมสถาปัตยกรรมอันวิจิตรตระการตาโบราณวัตถุล้ำค่า พบความเป็นที่สุดในโลกหลากหลายสิ่ง ได้แก่มังกร สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ถือว่ายิ่งมากยิ่งเป็นสิริมงคล มีมากถึง 2,840 ตัว กระถางธูปศักดิ์สิทธิ์ เสาฟ้าดิน และเป็นสถานที่ที่มีองค์ไท้ส่วยเอี๊ย (ดาวเทพคุ้มครองดวงชะตาประจำปีเกิดของมวลมนุษย์) ครบ 60 องค์
เทศกาลและงานประจำปี

เทศกาลตรุษจีนถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของจีน ซึ่งตามธรรมเนียมจีนเชื่อว่ามีความสำคัญมาก เพราะจะส่งผลไปตลอดปี จึงควรทำสิ่งอันเป็นสิริมงคล เช่น ไหว้เทพเจ้าเพื่อเสริมดวงชะตา ผู้มีเคราะห์จะทำพิธีสะเดาะเคราะห์ เพื่อส่งผลให้ประสบความสุข ความเจริญ ความสำเร็จ สุขภาพแข็งแรง ปราศจากอันตรายทั้งปวง

เทศกาลบุญถือศีลกินเจจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 1 ถึง 9 ของเดือนเก้าตามปฏิทินจีน

เวลาทำการ

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 7.00 - 18.00 น

ข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม

วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม
1/13 หมู่ 5 ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี 20000
โทรศัพท์: 038-398-381 - 3, 038-398-399
โทรสาร: 038-398-384
อีเมล์: naja_shrine@hotmail.com, naja_shrine@yahoo.com
website: www.najathai.net


credit:
http://www.teeteawthai.com/
http://www.bt-50.com/description.aspx?q_sec=69375096

Tuesday, September 20, 2011

ขอเชิญร่วมงาน เทศกาลกินเจ (หรือประเพณีถือศีลกินผัก) ประจำปี 2554



ขอเชิญร่วมงาน เทศกาลกินเจ (หรือประเพณีถือศีลกินผัก) ประจำปี 2554

เทศกาลกินเจ หรือประเพณีถือศีลกินผัก @ ชลบุรี 2554
(Chonburi Vegetarian Festival 2011)

สถานที่ : วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม หรือ ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ (บนถนนบางแสน-อ่างศิลา อำเภอเมืองจังหวัดชลบุรี)

ระยะเวลา : เริ่มต้นตั้งแต่ วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน - 6 ตุลาคม 2554


ความหมายของ "เจ"

"เจ" ในภาษาจีนมีความหมายว่า "อุโบสถ" เป็นคำแปลทางพุทธสาสนา นิกายมหายาน

การกินเจนั้นแต่เดิมหมายความถึง "การรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน" ตามแบบอย่างของพระพุทธศาสนา เราจะเห็นตัวอย่างชาวพุทธรักษาอุโบสถศีล หรือรักษาศีล 8 ด้วยการไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงไปแล้วเช่นเดียวกับพระภิกษุ แต่สำหรับพุทธนิกายมหายานนั้น การรักษาอุโบสถศีลจะรวมถึงการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ด้วย จึงนิยมเรียกการไม่กินเนื้อสัตว์ไปรวมกับการกินเจ จนถึงปัจจุบัน ผู้ที่รับประทานอาหารครบ 3 มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ยังคงเรียกว่า "กินเจ"

ความหมายของการกินเจ จึง หมายถึงการรักษาศีล ปฏิบัติธรรมทั้งกาย วาจา และใจ ไม่ใช่หมายความเพียงการไม่รับประทานเนื้อสัตว์เท่านั้น การปฏิบัติธรรมร่วมไปด้วยจึงจะครบเป็น "การถือศีล-กินเจ" อย่างแท้จริง

ตำนานเทศกาลกินเจ

เทศกาลเจ เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 400 ปีมาแล้ว ตามตำนานเล่าว่า เกิดมาในสมัยที่ชาวจีนถูกรุกรานโดยชนชาติแมนจู ซึ่งเข้าปกครองประเทศจีน และบังคับให้ชนชาติจีนยอมรับวัฒนธรรมของตน อาทิ การไว้ทรงผมเยี่ยงแมนจู คือ โกนศีรษะโล้นทางด้านหน้าและไว้ผมยาวทางด้านหลัง ซึ่งหลายคนคงจะชินตาในภาพยนตร์จีนที่นำมาฉายทางทีวี

ในสมัยนั้น มี คนจีนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันต่อต้านชาวแมนจู โดยใช้หลักทางธรรมเข้ามาร่วมด้วย ชาวจีนกลุ่มนี้ นุ่งขาว ห่มขาวและไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ซึ่งมีความเชื่อว่า การประพฤติปฏิบัติตามแนวทางนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็ง ให้กับกลุ่มของตนจนสามารถต้านทานชาวแมนจูได้ คนกลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า "หงี่หั่วท้วง" ซึ่งแม้จะได้ต่อสู้อย่างอาจหาญ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานการรุกรานของชาวแมนจูได้

เมื่อ ถึงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ชาวจีนที่ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของชาวแมนจู จึงพากันถือศีลกินเจ เพื่อรำลึกถึงเหล่านักสู้ "หงี่หั่วท้วง" ที่ได้ต่อสู้พลีชีพในครั้งนั้น

ความเชื่อถืออีกกระแสหนึ่งของ ตำนานการกินเจนั้น เชื่อกันว่าเป็นการสักการะพระพุทธเจ้าในอดีต 7 พระองค์ และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า ดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ในพิธีกรรมนี้ สาธุชนจึงงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต หันมาบำเพ็ญศีล โดยการตั้งปณิธานในการกินเจ งดเว้นอาหารคาว เพื่อเป็นการสมาทานศีล 3 ประการ คือ

1. เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาบำรุงชีวิตของตน

2. เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาเพิ่มเลือดของตน

3. เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาเพิ่มเนื้อของตน

สำหรับเมืองไทยความเชื่อเรื่องการกินเจ เป็นไปในแนวทางของการละเว้นการเอาชีวิตของสัตว์ เพื่อเป็นสักการะบูชาแก่ พระพุทธเจ้า และมหาโพธิสัตว์กวนอิม อาจเนื่องจากการแพร่หลายของกการละเว้นการกินเนื้อวัว ในกลุ่มคนที่นับถือ "เจ้าแม่กวนอิม" การกินเจ จึงเป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมเพื่อสักการะ

บรรยากาศเทศกาลกินเจของเมืองไทยในปัจจุบัน คนทั่วไปไม่เว้นแม้กระทั่งหนุ่มสาวยุคใหม่ต่างก็หันมากินเจกันมากขึ้นทั้ง นี้ อาจจะมาจากกระแสเรื่องห่วงใยสุขภาพมากกว่าความเชื่อโบราณ เพราะการงดเนื้อสัตว์ทุกชนิดและหันมาบริโภคแต่ผัก ผลไม้นั้นจะช่วยชำระล้างของเสียออกจากร่างกาย หรือคนยุคนี้เรียกว่า "การล้างพิษ" ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น


credit:
http://www.najathai.net/
http://www.chonburiguide.com
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...